(หันทะ มะยัง สะมะณะสัญญาปาฐัง ภะณามะ เส)

สะมะณา สะมะณาติ โว ภิกขะเว ชะโน สัญชานาติ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาชนเขาย่อมรู้จักเธอทั้งหลายว่าเป็นสมณะ

ตุมเห จะ ปะนะ เก ตุมเหหิ ปุฏฐา สะมานา

ก็แหละเธอทั้งหลายเล่า เมื่อถูกถามว่าท่านเป็นอะไร

สะมะณัมหาติ ปะฏิชานาถะ

พวกเธอก็ย่อมปฏิญญาว่า เราเป็นสมณะ

เตสัง โว ภิกขะเว เอวัง สะมัญญานัง สะตัง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อพวกเธอนั้นมีชื่อว่าสมณะอยู่อย่างนี้

เอวัง ปฏิญญานัง สะตัง

ทั้งปฏิญญาตัวว่า เป็นสมณะอยู่อย่างนี้

ยา สะมะณะสามีจิปะฏิปะทา

ข้อปฏิบัติอย่างใด เป็นความสมควรแก่สมณะ

ตัง ปะฏิปะทัง ปะฏิปัชชิสสามะ

เราจะปฏิบัติซึ่งข้อปฏิบัติอย่างนั้น

เอวันโน

เมื่อการปฏิบัติของเราอย่างนี้ มีอยู่

อะยัง อัมหากัง สะมัญญา จะ สัจจา ภะวิสสะติ ปะฏิญญา จะ ภูตา

ทั้งชื่อทั้งความปฏิญญาของเรานี้ก็จักเป็นจริงได้

เยสัญจะ มะยัง จีวะระ ปิณฑะปาตะ เสนาสนะคิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาเร ปะริภุญชามะ

อนึ่ง เราบริโภคจีวรบิณฑบาตเสนาสนะ และคิลานะเภสัชบริขารของชนเหล่าใด

เตสันเต การา อัมเหสุ มะหัปผะลา ภะวิสสันติ มะหานิสังสา

ความอุปการะของเขาเหล่านั้นในเราทั้งหลาย ก็จักมีผลใหญ่ มีอานิสสงส์ใหญ่

อัมหากัญเจวายัง ปัพพัชชา อะวัญฌา ภะวิสสะติ

อนึ่ง การบรรพชาของเราก็จักไม่เป็นหมันเปล่า

สะผะลา สะอุทะระยาติ

แต่จักเป็นบรรพชาที่มีผล เป็นบรรพชาที่มีกำไร

เอวัญหิ โว ภิกขะเว สิกขิตัพพัง

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาสำเหนียกอย่างนี้แล

เล่น/หยุด